
รหัส ESIM QR สามารถสแกนด้วยอุปกรณ์หลายเครื่องได้หรือไม่?
แบ่งปัน
ด้วยความนิยมที่เพิ่มขึ้นของเทคโนโลยี eSIM ผู้ใช้จำนวนมากสงสัยว่าสามารถสแกนรหัส QR ของ eSIM เพียงรหัสเดียวและเปิดใช้งานบนอุปกรณ์หลายเครื่องได้หรือไม่ คำตอบสั้น ๆ คือ เลขที่โดยทั่วไปรหัส QR ของ eSIM ได้รับการออกแบบมาให้ใช้งานครั้งเดียวและเชื่อมโยงกับอุปกรณ์เพียงเครื่องเดียว
เหตุใดจึงไม่สามารถแชร์รหัส QR ของ eSIM ระหว่างโทรศัพท์หลายเครื่องได้?
-
กระบวนการเปิดใช้งานที่เป็นเอกลักษณ์
-
รหัส QR ของ eSIM แต่ละรหัสจะมีข้อมูลเข้ารหัสที่เชื่อมโยงกับแผนมือถือและอุปกรณ์เฉพาะ
-
เมื่อสแกนแล้ว รหัส QR จะจัดเตรียมโปรไฟล์ eSIM ให้กับโทรศัพท์นั้นโดยเฉพาะ
-
-
การเชื่อมโยงเฉพาะอุปกรณ์
-
กระบวนการเปิดใช้งาน eSIM มักจะเชื่อมโยงโปรไฟล์กับตัวระบุเฉพาะของอุปกรณ์ (เช่น IMEI หรือ EID)
-
วิธีนี้จะช่วยป้องกันไม่ให้มีการนำรหัส QR เดียวกันมาใช้ซ้ำบนโทรศัพท์เครื่องอื่น
-
-
มาตรการรักษาความปลอดภัย
-
ผู้ให้บริการจำกัดการเปิดใช้งานหลายครั้งเพื่อป้องกันการฉ้อโกงและการใช้งานที่ไม่ได้รับอนุญาต
-
eSIM เดียวไม่สามารถเปิดใช้งานบนอุปกรณ์สองเครื่องพร้อมกันได้
-
จะเกิดอะไรขึ้นหากคุณต้องการโอน eSIM ไปยังโทรศัพท์เครื่องอื่น?
หากคุณต้องการเปลี่ยน eSIM ของคุณไปยังอุปกรณ์ใหม่ โดยปกติแล้วคุณจะต้อง:
-
ติดต่อผู้ให้บริการของคุณ สำหรับรหัส QR ใหม่หรือวิธีการเปิดใช้งาน
-
ถอด eSIM ออก จากอุปกรณ์เก่า (หากผู้ให้บริการต้องการ)
-
สแกนรหัส QR ใหม่ หรือทำตามขั้นตอนการเปิดใช้งานทางเลือกบนโทรศัพท์ใหม่
ผู้ให้บริการบางรายอนุญาตให้โอน eSIM ผ่านแอปหรือเว็บไซต์โดยไม่ต้องใช้รหัส QR ใหม่ แต่มีนโยบายที่แตกต่างกันออกไป
บทสรุป
รหัส QR ของ eSIM โดยทั่วไปคือ ไม่สามารถนำมาใช้ซ้ำได้—ใช้ได้กับอุปกรณ์เพียงเครื่องเดียวเท่านั้น หากคุณต้องการเปิดใช้งาน eSIM บนโทรศัพท์หลายเครื่อง อุปกรณ์แต่ละเครื่องจะต้องมีกระบวนการเปิดใช้งานของตัวเอง สำหรับคำแนะนำที่ชัดเจน โปรดตรวจสอบกับผู้ให้บริการมือถือของคุณเสมอ เนื่องจากนโยบายอาจแตกต่างกัน
คุณเคยลองโอน eSIM มาก่อนหรือไม่? แบ่งปันประสบการณ์ของคุณในความคิดเห็น!
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลนี้ใช้หลักปฏิบัติทั่วไปของอุตสาหกรรม นโยบายของผู้ให้บริการอาจแตกต่างกัน ดังนั้นควรสอบถามผู้ให้บริการของคุณเสมอ